logo
กรมธนารักษ์
สำนักงานธนารักษ์พื้นที่ยะลา
THE TREASURY
DEPARTMENT
MENU
  • A
  • A
  • A

เกี่ยวกับจังหวัด

 

ประวัติจังหวัดยะลา

          ยะลาเดิมเป็นท้องที่หนึ่งของเมืองปัตตานีในสมัยพระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว(ร.5)ได้มีการปรับปรุงการปกครองใหม่เป็นการปกครองแบบเทศาภิบาลและได้ออกประกาศข้อบังคับสำหรับปกครอง 7 หัวเมือง รัตนโกสินทรศก 120 ซึ่งประกอบด้วยเมืองปัตตานีหนองจิก ยะหริ่ง สายบุรี ยะลา ระแงะ และรามัน ในแต่ละเมืองจะแบ่งเขตการปกครองเป็นอำเภอ ตำบล และหมู่บ้าน ต่อมาในปี พ.ศ. 2447 ประกาศจัดตั้งมณฑลปัตตานีขึ้นดูแลหัวเมืองทั้ง 7 แทนมณฑลนครศรีธรรมราช และยุบเมืองเหลือ 4 เมือง ได้แก่ ปัตตานี ยะลา สายบุรี และระแงะต่อมา พ.ศ. 2450 เมืองยะลาแบ่งเขตการปกครองเป็น 2 อำเภอได้แก่อำเภอเมืองยะลาและอำเภอยะหา ต่อมา พ.ศ. 2475 ได้มีการยกเลิกมณฑลปัตตานีและในปี พ.ศ. 2476 เมืองยะลาได้รับการเปลี่ยนแปลงฐานะเป็นจังหวัดยะลาตามพระราชบัญญัติราชอาณาจักรสยาม พ.ศ 2476 เรื่องการจัดระเบียบราชการบริหารส่วนภูมิภาคออกเป็นจังหวัด เป็นอำเภอ และให้มีข้าหลวงประจำจังหวัด และกรมการจังหวัดเป็นผู้บริหารราชการ

 

ความหมายของชื่อจังหวัดยะลา

          เหตุที่เรียกชื่อว่ายะลานั้นเพราะพระยาเมืองคนแรกได้ตั้งที่ทำการขึ้นที่บ้านยะลา คำว่า ยะลา เป็นชื่อเรียกสำเนียงภาษามลายูพื้นเมืองมาจากคำว่า "ยาลอ” แปลว่า "แห” แต่ตามประวัติศาสตร์ซึ่งได้เขียนไว้ในสมัยเจ็ดหัวเมืองโดยเจ้าผู้ครองเมืองเดิมได้เขียนไว้เป็นประวัติศาสตร์เป็นภาษามลายูว่า"เมืองยะลา” เป็นสำเนียงภาษาอาหรับโดยชาวอินโดนีเย ที่เข้ามาเผยแพร่ศาสนาอิสลามในบริเวณเจ็ดหัวเมือง ซึ่งอยู่ในแหลมมลายูเป็นผู้ตั้งชื่อเมืองไว้ เมืองยะลาเดิมตั้งอยู่ใกล้ภูเขายาลอห่างจากที่ว่าการอำเภอเมืองยะลาปัจจุบันไปทางทิศตะวันตกประมาณ 12 กิโลเมตร ต่อมาเมืองยะลาได้ยกฐานะเป็นเมืองเมืองๆ หนึ่งของบริเวณเจ็ดหัวเมือง

 

วิสัยทัศน์จังหวัดยะลา

คุณภาพชีวิตมั่นคง เกษตรมั่งคั่ง ท่องเที่ยวยั่งยืน

 

 

ตราสัญสักษณ์และธงประจำจังหวัดยะลา

          มีลักษณะแสดงให้เห็นว่า จังหวัดยะลาอุดมสมบูรณ์ด้วยแร่ดีบุก และอาชีพหลักของประชาชนในอดีตคือการทำเหมืองแร่ธงประจำจังหวัดยะลามีลักษณะด้านบนเป็นสีเขียว ด้านล่างเป็นสีขาว โดยมีตราประทับกึ่งกลางระหว่างแถบสีทั้งสอง

 

ต้นไม้ประจำจังหวัด

ศรียะลา(Saraca declinata)

          ชื่อหลัก " ศรียะลา "(พันธุ์ไม้พระราชทานเพื่อปลูกเป็นมงคลประจำ จังหวัดยะลา) ชื่ออื่น โสกเหลือง อโศกเหลือง อโศกใหญ่ลักษณะทั่วไป ไม้ต้นไม่ผลัดใบ ขนาดเล็ก-กลาง สูง 10-15 ม. เรือนยอดเป็นพุ่มกลมหนาทึบ เปลือกต้นเรียบ สีเทา-น้ำตาล และมีต่อมอากาศกระจายทั่วลำต้น ใบ ใบประกอบแบบขนนกปลายใบคู่ เรียงตรงข้าม ใบย่อยมี 2-7 คู่ แผ่นใบรูปไข่หรือรูปหอกแกมรูปขอบขนาน ขนาด 5-9 x 7-32 ซม. ปลายใบแหลมและมักมีรอยไหม้สีดำ โคนใบมนหรือสอบ ผิวใบด้านบนมองเห็นเส้นใบเป็นร่องลึกชัดเจน ดอกออกเป็นช่อ แบบช่อเชิงหลั่น ตามปลายกิ่งและลำต้น ฐานรองดอกขยายยาวมีรูปร่างคล้ายหลอด กลีบเลี้ยงมี 4กลีบรูปร่างคล้ายกลีบดอก สีเหลืองอมน้ำตาล ดอกออกเดือนตุลาคม-มกราคม ผลแบบฝักแบน แห้งแล้วแตก รูปขอบขนานแกมรูปหอก สีแดงปนน้ำตาล ปลายฝักโค้งทั้ง 2 ด้าน ขนาด 3.5-8 x 15-40 ซม. มี 2-3 เมล็ด สีแดงคล้ำ รูปไข่แกมรูปขอบขนานสภาพนิเวศ ขึ้นใกล้ลำห้วยในป่าดิบ ตามที่ลาดเชิงเขา ที่ความสูงจากระดับน้ำทะเล 50-350 ม.สถานภาพ พืชหายาก

 

ดอกไม้ประจำจังหวัด

ดอกพิกุล(Mimusops elengi)

          พิกุลเป็นไม้ยืนต้นขนาดกลาง กิ่งก้านค่อนข้างแจ้ แบน คล้ายต้นหว้า มีพุ่มใบแน่น เหมาะสำหรับปลูกไว้บังแดดตอนบ่าย ดอกมีกลิ่นหอม ใบเป็นใบเดี่ยว สีเขียวเข้ม ปลายแหลมมน มีขนาดใบกว้างประมาณ ๗ ซ.ม. ยาวประมาณ ๑๕ ซ.ม. เส้นกลางใบด้านท้องใบนูน ก้านใบยาวประมาณ ๓ ซ.ม. ดอกออกเป็นช่อ เป็นกระจุก ดอกมีขนาดเล็กกว้างประมาณ ๑ ซ.ม. กลีบดอกเล็กแคบยาวเรียงซ้อนกันเป็นชั้น ๆ มองดูริมดอกเป็นจักเล็ก ผลกลมโตคล้ายละมุดสีดา แต่เล็กกว่าเล็กน้อย ผลสุกสีแดงแสด ใช้รับประทานได้ รสฝาดหวานมัน การขยายพันธ์ ใช้เพาะเมล็ด หรือ ตอนกิ่ง ทางด้านสมุนไพร เปลือกใช้ต้มเอาน้ำอมเป็นยากลั้วล้างปาก แก้ปากเปื่อย ปวดฟัน ฟันโยกคลอน เหงือกบวม เป็นยาคุมธาตุ ดอกแห้งใช้ป่นทำยานัตถุ์ แก้ไข้ ปวดศรีษะ เจ็บคอ แก้ปวดตามร่างกาย แก้ร้อนใน

 

คำขวัญประจำจังหวัด

ใต้สุดสยาม เมืองงามชายแดน

 

          ยะลาเป็นจังหวัดที่เทศบาลมีการจัดวางผังเมืองแบบใยแมงมุมที่สวยที่สุดของประเทศไทยและได้รับรางวัลชนะเลิศการประกวดความสะอาด 3 ปีซ้อนระหว่าง พ.ศ. 2538 - 2540 และได้รับการยกฐานะเป็นเทศบาลนครยะลาในปี พ.ศ. 2538 และในปี พ.ศ. 2540 ได้รับการคัดเลือกจากองค์การอนามัยโลกให้เป็นเป็น 1 ใน 5 เมืองของประเทศไทยในโครงการเมืองน่าอยู่ทั่วโลก

 

พื้นที่อาณาเขตติดต่อ

ทิศเหนือ จดอำเภอสะบ้าย้อย จังหวัดสงขลา และอำเภอโคกโพธิ์ จังหวัด ปัตตานี

ทิศตะวันออก จดจดอำเภอบาเจาะ อำเภอรือเสาะ จังหวัดนราธิวาส

ทิศใต้ จดรัฐเปรัค ประเทศมาเลเซีย

ทิศตะวันตก จดจังหวัดสงขลา และรัฐเคดาห์ ประเทศมาเลเซีย

 

ประชากรในจังหวัดยะลา

          จังหวัดยะลาเป็นหนึ่งใน 4 จังหวัดของไทย ที่ประชากรส่วนใหญ่นับถือศาสนาอิสลาม ซึ่งมีมากถึงร้อยละ 68.9 และประชากรส่วนใหญ่เป็นชาวไทยเชื้อสายมลายู ถึงร้อยละ 66.1 นอกจากนั้นก็จะมีชาวไทย ชาวจีน และชาวญวน ภาษาที่ใช้กันในชีวิตประจำวันก็จะมีภาษามลายูถิ่น ซึ่งในแต่ละท้องถิ่นจะแตกต่างกันออกไป ภาษาไทย ซึ่งก็มีการใช้สนทนา รวมถึงภาษาจีน ซึ่งแพร่หลายอยู่ในกลุ่มชาวจีนที่อาศัยอยู่ในจังหวัดยะลา รวมถึงภาษาของชาวซาไก ซึ่งอาศัยอยู่ในเขตอำเภอธารโต

 

การศึกษาระดับอุดมศึกษา

  • มหาวิทยาลัยราชภัฏยะลา
  • วิทยาลัยชุมชนยะลา
  • มหาวิทยาลัยสุโขทัยธรรมาธิราช
  • มหาวิทยาลัยอิสลามยะลา
  • สถาบันการพลศึกษา
  • วิทยาลัยการสาธารณสุขสิรินธร
  • วิทยาลัยพยาบาลบรมราชชนนี

 

ผู้บริหารจังหวัดยะลา

         

                 นายอำพล พงศ์สุวรรณ        นายธีรุตม์  ศุภวิบูลย์ผล           นายอำนาจ  ชูทอง        พันจ่าโท อนันต์ บุญสำราญ

                ผู้ว่าราชการจังหว้ดยะลา      รองผู้ว่าราชการจังหว้ดยะลา    รองผู้ว่าราชการจังหว้ดยะลา   รองผู้ว่าราชการจังหว้ดยะลา

                                                        

 

สถานที่ท่องเที่ยว

9

 

สวนขวัญเมือง

          สวนขวัญเมืองตั้งอยู่ในเขตเทศบาลเมืองยะลา ห่างจากศาลหลักเมืองยะลาประมาณ 300 เมตร เป็นสวนสาธารณะของเทศบาลเมืองยะลา พื้นที่รวมทั้งสิ้นประมาณ 207 ไร่ ปรับปรุงขึ้นจากพรุบาโกยโดยจัดให้มีสวนกีฬา สนามแข่งขันนกเขาชวาเสียง ซึ่งเป็นสนามมาตรฐานที่ใหญ่ที่สุดในภาคใต้ และชายหาดจำลองสวนแห่งนี้สร้างขึ้นในสมัยพลเอกเปรม ติณสูลานนท์ ดำรงตำแหน่งนายกรัฐมนตรี ซึ่งได้เดินทางมาทำพิธีเปิดป้ายชื่อ "สวนขวัญเมือง"

 

เขื่อนบางลาง

          ตั้งอยู่บ้านบางลาง ตำบลบาเจาะ ห่างจากจังหวัดยะลาไปตามทางหลวงหมายเลข 410 ประมาณ 50 กิโลเมตร แล้วแยกซ้ายไปอีก 12 กิโลเมตร เขื่อนบางลางเป็นโครงการไฟฟ้าพลังน้ำเอนกประสงค์แห่งแรกในภาคใต้ที่สร้างปิดกั้นแม่น้ำปัตตานี เป็นเขื่อนแบบหินทิ้งแกนดินเหนียว สูง 85 เมตร สันเขื่อนยาว 422 เมตร สามารถเก็บกักน้ำได้ 1,420 ล้านลูกบาศก์เมตร พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวได้เสด็จพระราชดำเนินไปทรงประกอบพิธีเปิดเขื่อนบางลาง เมื่อวันที่ 27 กันยายน 2524 บริเวณเหนือเขื่อนในบริเวณที่ตั้งของสำนักงานการไฟฟ้าฝ่ายผลิตฯ มีจุดชมทิวทัศน์มองเห็นทัศนียภาพของเขื่อน อ่างเก็บน้ำและทิวเขาโดยรอบได้สวยงาม

 

น้ำตกสุธาลัย

          ตั้งอยู่ที่บ้านกาโสด ตำบลบันนังสตา ห่างจากจังหวัดยะลา ไปตามทางหลวงแผ่นดินหมายเลข 410 ประมาณ 50 กิโลเมตร เลยแยกปากทางเข้าเขื่อนบางลางไปเล็กน้อย แล้วแยกซ้ายเข้าไปตามทางลูกรังอีก 1.5 กิโลเมตร มีทัศนียภาพของภูเขา ธารน้ำและถ้ำลอดที่สวยงาม ในช่วงที่น้ำน้อยสามารถเดินเลาะเลียบตามลำธารลอดถ้ำไปทะลุอีกด้านหนึ่ง ซึ่งเป็นที่โล่ง โอบล้อมด้วยภูเขาและแมกไม้เขียวขจี มีทัศนียภาพสวยงาม

 

GO TO BETONG

10

          เบตง เป็นอำเภอ ขนาดใหญ่ในจังหวัดยะลา นับเป็นอำเภอใต้สุดของประเทศไทย ตั้งเป็นอำเภอเมื่อ พ.ศ. 2441 คำว่า "เบตง" (Betong) มาจากภาษามาลายู ว่า "Buluh Betong" หมายถึง ไม้ไผ่ หรือ ไผ่ตง มีสถานที่เที่ยวมากมายไว้ต้อนรับนักท่องเที่ยวชาวไทยและต่างประเทศ และจะมีสนามบินเพื่อให้บริการนักท่องเที่ยวในเร็ววันนี้

 

ข้อมูลการเดินทางสู่จังหวัดยะลา

          รถยนต์ ยะลาอยู่ห่างจากกรุงเทพฯ 1,084 กิโลเมตร โดยเดินทางไปตามถนนเพชรเกษมผ่านเพชรบุรี-ประจวบคีรีขันธ์-ชุมพร ต่อด้วยทางหลวงหมายเลข 41 ผ่านทุ่งสง-พัทลุง-หาดใหญ่ และเดินทางต่อไปปัตตานีจนถึงยะลา

         รถปรับอากาศของบริษัท ขนส่ง จำกัด บริการระหว่าง กรุงเทพฯ – ยะลา รถออกจากสถานีขนส่งสายใต้ ถนนบรมราชชนนี สอบถามรายละเอียดได้ที่ โทร. 02 894 6122 จองตั๋ว บขส.              โทร. 02 422 4444 หรือ และบริษัทเอกชน บริการระหว่างกรุงเทพฯ – ยะลา – เบตง ติดต่อบริษัท ไทยเดินรถ โทร. 0 2435 5015 และบริษัท ปิยะทัวร์ โทร. 0 2435 50

         รถไฟ มีรถไฟออกจากสถานีหัวลำโพงถึงสถานียะลาทุกวัน สอบถามรายละเอียดได้ที่การรถไฟแห่งประเทศไทย โทร. 1690 http://www.railway.co.th 

        เครื่องบิน ไม่มีเครื่องบินให้บริการตรงไปยะลา แต่สามารถเดินทางไปยังหาดใหญ่ แล้วเดินทางต่อไปยังยะลาโดยรถไฟ รถประจำทาง รถแท็กซี่ หรือรถตู้ ระยะทางจากหาดใหญ่ถึงยะลาประมาณ 150 กิโลเมตร

 

10 กรกฎาคม 2556 | จำนวนเข้าชม 4438 ครั้ง